อี้ชิง [弈星]

"โลกนี้ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ข้าจะลืมความเจ็บนั้นได้อย่างไร?"
"ก็เล่นหมากเสียสิ"
"หมากงั้นหรือ? มันทดแทนกับความเจ็บปวดได้งั้นหรือ?"
"แน่นอน.."

ชายหนุ่ม ชำเลืองมองบิดาของเขา แล้ววางตัวหมากตัวสุดท้ายลงบนกลางกระดาน  โลกนั้นได้เปลี่ยนไป แต่เขามิได้อยากจะกลายร่างเป็นปีศาจร้ายแม้แต่น้อย ถ้าเขายังเป็นมนุษย์อยู่ เขาก็คงจะกระหายความสุขที่เขาสมควรได้รับเช่นกัน เขาทำได้แค่เพียงซ่อนจิตใจภายในเอาไว้ในโลกของกระดานหมากเพียงแค่เท่านั้น
กาลเวลาผ่านไป เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ชายหนุ่มได้มาที่เมืองฉางอานพร้อมกับนักปรุงยาจากดอกโบตั๋น ผู้ซึ่งสอนให้เขาเล่นหมาก และเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้
ในขณะนั้นเอง องค์จักรพรรดิได้มอบชิ้นส่วนหยกอันล้ำค่าให้แก่เอกอัครราชทูต เพื่อเรียนรู้พลังทั้งหมดทั้งมวลของฉางอาน
พลังของเอกอัครราชทูตนั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่การเล่นหมากของเขานั้นไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย องค์จักรพรรดิไม่พึงพอใจเป็นอย่างมากเนื่องจากคาดหวังในตัวเอกอัครราชทูตเอาไว้สูง จากรอยยิ้มบนใบหน้าได้มลายกลายเป็นบึ้งตึงและโกรธกริ้ว
เมื่อเอกอัครราชทูตได้รู้ตัวว่า องค์จักรพรรดินั้นกริ้วโกรธ แต่ยังคงแข่งขันหมากอยู่เรื่อยไป หวังให้ตัวเองชนะ เพื่อทำให้องค์จักรพรรดิหายกริ้ว จนกระทั่งผู้เข้าแข่งขันคนล่าสุดคือเด็กหนุ่มผู้มาเยือน
เมื่อเข้าสู่การแข่งขัน นักปรุงยาได้ชี้แนะเด็กหนุ่มในการเข้าแข่ง และมองดูลูกศิษย์ของตน ผู้คนต่างจับจ้องตาไม่กระพริบ หากพวกเขาได้รู้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มฝึกหัดได้มาประลองกับเซียนหมาก พวกเขาคงตกใจและลือเล่ากันไปปากต่อปากเป็นแน่
เอกอัครราชทูตได้ชำเลืองมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่หน้ากระดานหมากด้วยกายที่สั่นระริกด้วยความประหม่า พร้อมนึกภายในใจว่าตนมิเคยเห็นเด็กที่จะกล้ามาประลองถึงเพียงนี้ คงเป็นตาที่ตึงเครียดที่สุดและยาวนานไม่มีวันจบสิ้นเป็นแน่
เพียงแค่อึดใจเดียว อัครราชทูตก็ได้ถูกโค่นลง บนกระดานหมากต่างชุ่มไปด้วยเหงื่อหลังจากที่ผ่านการประลองอันยาวนาน เปรียบกับสนามรบหลังสงครามสิ้นสุด เขาชะล่าใจเกินไปเมื่อเขาได้เห็นเด็กหนุ่มนั้นเกรงกลัว เขาสำราญใจเนื่องจากคิดว่า ตัวเองได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ตนสามารถโค่นลงได้

หลังจากการประลองนั้นสิ้นสุดลง เด็กหนุ่มได้กลายเป็นเสียงเล่าลือและโด่งดังในฉางอาน ข่าวลืฮากระจายแผ่ออกไปว่าเด็กชายคนนั้นเป็นทายาทของชนชาติอังกฤษ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าผู้กอบกู้นั้นคือผู้ใด เขาเป็นแม่ทัพผู้ซึ่งนำกองกำลังทหารเพื่อไปช่วยเหลือผู้คนชาวกำแพงแห่งแผ่นดินใหญ่
ซึ่งผันมาเป็นผู้ปกป้องเขตพรมแดนจนถึงทุกวันนี้ ฝีมือการเล่นหมากของเขาพัฒนาได้ขึ้นพัฒนาขึ้นอย่างมาก แต่โชคร้าย เหล่าผู้คนรุ่นลูกหลานต่างอยู่ภายใต้การควบคุมของประชาชนรุ่นก่อนหน้าเนื่องด้วยข่าวลือดังกล่าว ข่าวลือที่ชวนให้สงสัยทำให้ความโด่งดังของชื่อเสียงชายหนุ่ม กลายเป็นระดับตำนาน
ชายหนุ่มอยู่ระหว่างกลางล้อมรอบของกลุ่มผู้คน ไม่สนใจเสียงนินทาของผู้อื่นรอบตัวตนเอง จิตใจจดจ่อไปยังกระดานหมากที่ตนประลอง ยังไม่มีผู้ใดสามารถช่วงชิงชัยชนะจากมือของเขามาได้เป็นเวลานาน
"เมืองฉางอานนี้ ช่างละม้ายคล้ายกับกระดานหมากเสียจริง"

ถนนทั้งสิบเส้นตัดกัน ทำให้ทั้งเมืองเป็นกรอบเกลี่ยมนับร้อย มีเส้นแบ่งรอบ ดังเส้นขอบของกระดานหมาก และอาคารบ้านช่อง เปรียบได้ดังตัวหมาก
"จงจำกระดานนี้เอาไว้ให้ดี"
"หากเจ้าเอาชนะการประลองครานี้ได้ และยังคงได้รับชัยชนะต่อไป เจ้าจะถูกจดจำไว้โดยบิดาของเจ้าหรือไม่?"
"ถูกต้อง"
เด็กหนุ่มปิดเปลือกตาลง หัวเราะในลำคอ ทันใดนั้นเอง เมืองฉางอานได้กลายเป็นอีกที่ในทันใด

เขาจมปลักอยู่ในการเล่นหมากมาช้านาน และสามารถเพิ่มพูนฝนฟ้าพายุให้กลายมาเป็นพลังได้ หากว่า หมากและชัยชนะ สามารถลบล้างความรุนแรงและไม่ยุติธรรมให้โลกได้ มันจะช่วยให้มีความสุขเช่นกันหรือไม่?
จงอย่าโลภ มิเช่นนั้น เจ้าอาจมิได้รับชัยชนะให้แก่ตนเอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กงซุนหลี [公孙离]

หยางกุ้ยเฟย (หยางยู่หวน) [杨玉环]