กงซุนหลี [公孙离]

"ช่างเป็นเด็กสาวที่โชคดีจริง.."
เธอคือเด็กหญิงผู้ถูกเลือก จากเด็กกำพร้านับร้อยคน และจากวันนั้น เธอได้บอกลาความหิวและหนาวเหน็บ และค่อยๆเปลี่ยนไป ดังดักแด้แผ่ออกกลายเป็นผีเสื้อสีสวย
เด็กสาวทั้งหลายต่างพูดคุยกันเซ็งแซ่เรื่องชุดใหม่เพื่อวันปีใหม่ อาหลี (กงซุนหลี) ได้เต้นรำท่ามกลางหิมะตกกลางแจ้ง
เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ณ เมืองฉางอาน ในห้องฝึกสอนการเต้นรำ เด็กสาวทั้งหลายต่างจับจ้องไปที่อาหลี ที่เปล่งประกายและเบ่งบานที่สวนหน้าห้องฝึกนั้น และรายล้อมไปด้วยดอกโบตั๋น


การเจริญเติบโตนั้น คล้ายกับมีความลับบางอย่าง ดังเช่นศาลา ที่ถูกก่อสร้างและตั้งตระหง่านมาอย่างยาวนาน ด้วยความทะเยอทะยาน จะไม่มีความเกรงกลัวใดๆ ที่จะก้าวไปข้างหน้าและท้าทายสิ่งต่างๆที่ขวางทาง เพื่อให้ตนยังได้ชื่นชม ถนนอันเก่าแก่ ที่ทอดยาวมายังศาลาของตน
อาหลีคือเด็กสาวที่พยายามอย่างหนักเพื่อทำให้ชีวิตของเธอนั้นดีขึ้น
"ถึงแม้มันจะแปลกแยกไปหน่อยก็เถอะ แต่ตัวข้านั้น อยากจะนำพาความสุขความสมหวังไปยังคนอับโชค"
เมื่อระฆังบอกเวลาเย็นดังกังวาล ชาวบ้านถูกจำกัดให้อยู่เพียงในที่พักอาศัย งานเลี้ยงของเหล่าขุนนางได้เริ่มขึ้น บรรยากาศครึกครื้น แต่การกระทำของเหล่าผู้คนในงานรื่นเริง  ตรงกันข้ามกันเสียอย่างสิ้นเชิง มันเต็มไปด้วยเครื่องมือทารุณกรรมกับเหล่าเด็กกำพร้า ที่ถูกนำมาค้ามนุษย์
เหล่าผู้คนที่ชอบกดขี่ข่มเหง, เหล่าคนโลภ, ชนชั้นสูงที่ได้สละชีวิตของตน ผู้ที่ทำสิ่งผิดกฏหมายห หรือถูกปอกลอกหมดเปลือก  ต่างถูกลงโทษในความเบาหนักที่ต่างกัน เหล่าคนบริสุทธิ์ที่มีสิทธิ์จะได้รับความสุขสมหวัง นี่คือสิ่งเร่นไว้ภายในความมืด หรือซึ่งก็คือ ความยุติธรรมที่ถูกซ่อนเอาไว้

อาหลีมิเคยพลาด หรือถูกจับได้เลยสักครั้ง เนื่องด้วยคู่หูของเธอนั้นช่วยเหลือเธอ ณ วันหนึ่งในแผ่นดินใหญ่ที่มาถึง
การค้าขายเด็กกำพร้าเริ่มขึ้นอีกครั้ง บนหลังคาของตึกรามบ้านช่อง หากไม่สังเกต จะไม่เห็นหญิงสาวที่พุ่งกลับไปมา เมื่ออยู่บนตึกที่สูงที่สุด ใจกลางช่องของ 'เส้นขอบกระดานหมาก' จะไม่มีผู้ใดมองเห็นเธอได้อย่างแน่นอน
"เฮ้อ เกือบโดนจับได้แล้วไหมล่ะ" เมื่อการสอดแนมการค้ามนุษย์จบลง ทันใดนั้น ชายแปลกหน้าก็กระตุกชายแขนเสื้อของเธอ

"เต้นรำให้ข้าดูทีซิ แล้วข้าจะให้เจ้าร้อยเหรียญ"
ชายที่ดูหน้าตาไม่เป็นมิตร แถมยังดูเป็นวัยรุ่นอยู่อีก  ไม่ใช่แค่วัยรุ่นธรรมดา แต่หากว่าจะชอบแหกกฏด้วย สาวน้อยนึกในใจ พลางมองไปในตา ที่ลึกๆแล้ว ชวนให้ลุ่มหลง แต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด เขาจะให้ข้าสองร้อยเหรียญ ที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขา แล้วให้ข้าทำอย่างที่เขาต้องการ เช่นนั้นหรือ..
"หนึ่งร้อยเหรียญไม่มีค่าพอที่จะให้ข้าเต้นให้เจ้าดูหรอก" เธอ แล้วเธอก็ทำท่าทางหยิ่งยโส แล้วปรายตามองเด็กหนุ่มคนนั้น
"มาพนันกันดีกว่าไหม ทายคำถามสามข้อ หากเจ้าตอบถูก ข้าเต้นรำให้เจ้าดูแน่ แต่ถ้าข้าชนะ เจ้าต้องเอาให้เงินข้า แล้วติดตามพาข้าไปให้ส่งถึงบ้าน"
ชั่วครู่ผ่านไป ชายหนุ่มยื่นเงินให้และจำใจพาแม่สาวทระนงตนไปส่งให้ถึงที่พัก ในตอนนั้นเอง อาหลีได้รับรู้เรื่องราวว่า กลุ่มคนใน ชอบติดสินบน และใช้เงินปิดปากเอาไว้ แต่ยังมีผู้นำที่เปิดเผยคนทรยศในกลุ่มตน เพื่อความเป็นธรรม หรือจะเป็นความนิ่งเฉยต่อคำขอร้องให้ช่วย  แต่จากสิ่งที่กล่าวมาแล้ว ภารกิจของพวกเขาคือ การฟื้นฟูความยุติธรรมเพื่อให้คงอยู่อย่างต่อไป และจากการติดตามของชายหนุ่มที่คอยติดตามอาหลี หัวหน้ากลุ่ม ซึ่งคือ หมิงชีหยิน (ตัวเชื่อมวิญญาณ) ได้เห็นว่า หน่วยก้านดีของพ่อเสือนั้น ดีพอที่จะชักชวนเข้ากลุ่มเพื่อให้รักษาความสงบสุขให้ยั่งยืนต่อไป  ชายหนุ่มที่ชื่อว่า เผฉิงหู่  (ตัวเสือ) ได้กลายเป็นสมาชิกคนใหม่ในกลุ่มแล้ว
อาหลีเป็นคนรอบคอบ จิตใจงดงาม และฉลาดหลักแหลม แต่พ่อเสือหนุ่มทำให้เธอรู้สึกเศร้าโศก และหวนนึกถึงอดีตภายใต้จิตใจของเธอ.. ถนนที่ทอดยาวจากศาลางดงามที่ซึ่งเธอเคยอาศัย สุดลูกหูลูกตา ไปยังกำแพงใหญ่.. "ท่านพยากรณ์คะ ผู้ใดสร้างกำแพงขึ้นมากัน? ผู้ใดคอยดูแลรักษาอยู่? แล้วผู้ใดอยากจะได้มันมาครอบครองคะ? แล้ว.. ใครจะกลับมาเพื่อมันคะ? แล้วหลังจากนี้ เราจะได้เจอกันอีกไหมคะ? ถ้าเราพบพานกันอีก ท่านควรจะงดงามกว่าตอนนี้นะคะ.."

บุปผาเบ่งบานในฉางอาน ช่วงฤดูวสันต์ ช่างอบอุ่น และมีความสุขเสียจริง..


/หากผู้ใดอ่านแล้วไม่เข้าใจ จะสรุปให้ตรงนี้นะคะ
 - ตอนแรก มีคนนิรนาม เอ่ยขึ้นว่า "ช่างเป็นเด็กสาวที่โชคดีเสียจริง" นั่นคือ หากไม่มีคนมารับกงซุนหลีไปเลี้ยงดู กงซุนหลี อาจถูกนำไปค้ามนุษย์ก็ได้ค่ะ
- ที่มีระฆังดังในตอนเย็น คือเคอร์ฟิวค่ะ ห้ามชาวบ้านออกมาเพ่นพ่าน เพราะอาจจะเห็นด้านมืดของเหล่าขุนนางที่จับคนมาทรมาณ หรือนำเด็กกำพร้ามาค้ามนุษย์ค่ะ
- กงซุนหลียอมเข้าร่วมกลุ่มฉางอาน เพื่อปกป้องเหล่าเด็กกำพร้า ไม่ให้ถูกนำไปค้ามนุษย์ค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หยางกุ้ยเฟย (หยางยู่หวน) [杨玉环]

อี้ชิง [弈星]